เด็กวัยรุ่นในรัฐมิชิแกน ได้รับข้อความก่อกวนประมาณ 12 ข้อความเกือบทุกวัน ต้องอดทนกับมันมาปีกว่า สุดท้ายแม่ต้องพาไปแจ้งความ แต่ตำรวจตามสืบและพบว่าผู้ร้ายคือแม่ของเธอเอง
ตามรายงานของ New York Post เด็กหญิงอ้างว่าได้รับข้อความก่อกวนมากถึง 12 ข้อความต่อวัน อัยการได้ตรวจสอบจากข้อความหลายร้อยข้อความ พบว่าเนื้อหาส่วนใหญ่เป็นข้อความที่ดูหมิ่นเหยียดหยามและทำร้ายจิตใจ เพียงเพื่อกดขี่ความนับถือตนเองของเด็กหญิง สุดท้ายเมื่อทนต่อไปไม่ไหว เด็กหญิงหันไปขอความช่วยเหลือจากแม่ของเธอ ซึ่งเป็นโค้ชทีมบาสเกตบอลหญิงของโรงเรียน แม่ของเธอจึงพาลูกสาวไปที่สถานีตำรวจ เพื่อแจ้งความต่อเหตุการณ์ดังกล่าว
ก่อนหน้านี้แม่ของเด็กหญิงคนดังกล่าวและผู้ปกครองของนักเรียนอีกคนหนึ่ง ได้ร่วมมือกับทางโรงเรียนเพื่อทำการสอบสวนภายใน แต่ไม่พบพฤติกรรมรังแกกันในหมู่นักเรียน และไม่พบใครใช้เครือข่ายอินเตอร์เน็ตของโรงเรียนเพื่อส่งข้อความก่อกวน ทางโรงเรียนจึงส่งต่อเรื่องไปยังหน่วยงานท้องถิ่น เพื่อให้เกิดการบังคับใช้กฎหมายต่อไป
ตำรวจตามสืบจากที่อยู่ IP ของผู้ที่ส่งข้อความเข้ามา และพบว่าผู้ต้องสงสัยคือแม่ของเด็กหญิง เอง โดยยังพบว่าเธอเลือกใช้ VPN เพื่อหลบเลี่ยงการสืบสวน และไม่เพียงแต่รังควานลูกสาวของเธอ แต่เธอยังรังควานแฟนของลูกสาวด้วยเช่นเดียวกัน เธอส่งข้อความโดยปลอมน้ำเสียงเป็นวัยรุ่น เพื่อให้ลูกสาวคิดว่าผู้ร้ายเป็นเพื่อนคนใดคนหนึ่ง
เมื่อตำรวจนำหลักฐานมาสอบปากคำ แม่ของเด็กหญิงยอมรับในสิ่งที่ทำ แต่ไม่ได้อธิบายถึงแรงจูงใจของเธอ อย่างไรก็ดี เธอถูกตั้งข้อหา 2 กระทง ในความผิดเกี่ยวกับการสะกดรอยตามผู้เยาว์ ความผิดฐานใช้คอมพิวเตอร์ก่ออาชญากรรม 2 กระทง และ 1 กระทง ฐานขัดขวางกระบวนการยุติธรรม อย่างไรก็ดี เธอได้รับการประกันตัวไปด้วยวงเงิน 5,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1.7 แสนบาท)
แต่เธอมีกำหนดกลับขึ้นศาลในวันที่ 29 ธ.ค.นี้ อีกครั้ง เพื่อพิจารณาว่ามีหลักฐานเพียงพอที่จะดำเนินการพิจารณาคดีต่อไปหรือไม่ โดยการใช้คอมพิวเตอร์ก่ออาชญากรรมมีโทษจำคุก 10 ปี ในขณะที่การสะกดรอยตามผู้เยาว์และการขัดขวางกระบวนการยุติธรรมมีโทษจำคุก 5 ปี