นางมาเรียนา ชากโล คุณแม่ชาวกรุงเคียฟของยูเครน วัย 52 ปี ตัดสินใจซื้อปืนสงคราม ซบรอยา แซด-15 มาปกป้องตัวเอง จากความกังวลว่ากองทัพรัสเซียอาจบุกยึดประเทศ
“ถ้ามาจริงๆ เราก็จะสู้เพื่อกรุงเคียฟค่ะ เราจะสู้เพื่อปกป้องเมืองของเรา ฉันว่าถ้ารัสเซียจะบุกมาคงไม่ปล่อยเมืองของเราไว้แน่ แล้วถ้าสงครามเริ่ม พวกเขาก็จะมาที่นี่ เพราะกรุงเคียฟเป็นเป้าหมายหลัก” นางชากโล กล่าว
“ถ้าจำเป็นต้องยิง ฉันจะยิงก่อนค่ะ”
คุณแม่ลูก 3 รายนี้เผยว่าตนใช้เงินซื้อปืนกระบอกนี้ไป 1,300 ยูโร (48,350 บาท) ทั้งยังเข้าคอร์สการยิงปืนสไนเปอร์ระยะเวลา 2 สัปดาห์ เพื่อยิงให้เป็น
ไม่ใช่แค่นั้น นางชากโล ยังจ่ายไปอีก 1,000 ยูโร สำหรับหมวกกันกระสุน เสื้อลายพรางสำหรับสภาพอากาศหิมะตก เสื้อเกราะ กระเป๋าใส่กระสุน รองเท้าบูต และเครื่องแบบทหารกองเกินของสหราชอาณาจักรด้วย
ตนเผยอีกว่า ถ้าหากติดอยู่ในบ้านก็หายห่วงแล้ว เพราะขณะนี้ซื้อเสบียงมาตุนไว้เพียบ
นายดมิโตร คูเลบา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศยูเครน กล่าวเมื่อวันพุธ (26 ม.ค.) ว่าขณะนี้จำนวนทหารรัสเซียที่มาประจำการใกล้ชายแดนยูเครนนั้น ยังไม่มากพอที่จะบุกยึดประเทศแน่ๆ
ด้านนายโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดีรัสเซียก็แนะนำให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก
“เราแข็งแกร่งพอที่จะควบคุมทุกอย่างและล้มล้างความพยายามที่จะทำให้ประเทศของเราไร้เสถียรภาพได้แน่นอน” นายเซเลนสกี กล่าว
ตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา รัสเซียสั่งให้ทหารประมาณ 100,000 นายประจำการใกล้ชายแดนยูเครน ทั้งยังจัดการซ้อมรบหลายครั้ง การเคลื่อนไหวนี้ทำให้สหรัฐและพันธมิตรในองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) เร่งเตรียมความพร้อมต่อสงครามครั้งใหม่ที่อาจเกิดขึ้น