จีนเซ็นกระชับสัมพันธ์ทหารกัมพูชา สหรัฐหวั่นอาเซียนไม่ปลอดภัย

พันเอก อู๋ เชียน โฆษกกระทรวงกลาโหมจีน แถลงเมื่อวันพฤหัสบดี (31 มี.ค.) ว่าพลเอก หลิว เจิ้นลี่ ผู้บัญชาการกองทัพบกจีน และพลเอก ฮุน เมเณต รองผู้บัญชาการทหารบกกัมพูชา ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) ฉบับหนึ่ง ที่ช่วยกระชับความสัมพันธ์และกิจกรรมทางทหารระหว่างกองทัพบกของทั้ง 2 ประเทศ

“จีนและกัมพูชาเป็นเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดและมิตรที่แน่นแฟ้น” พ.อ.อู๋ กล่าว

“หลายปีมานี้ ความร่วมมือในทางปฏิบัติระหว่างกองทัพทั้ง 2 ในหลายด้าน เช่น การสื่อสารเชิงกลยุทธ์ การซ้อมรบและฝึกทหารร่วมกัน การแลกเปลี่ยน และการฝึกฝนกำลังพล มีมากขึ้นเรื่อยๆ”

อย่างไรก็ตาม พ.อ.อู๋ ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับเอ็มโอยูฉบับดังกล่าว

การเปิดเผยนี้เกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากมีการรายงานว่าจีนทำสัญญากับประเทศหมู่เกาะโซโลมอนด้านความมั่นคง โดยจะทำให้เรือรบของจีนไปประจำการหรือลาดตระเวนในน่านน้ำของประเทศนี้ได้ แต่สิ่งนี้สร้างความกังวลแก่ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์มาก

ด้านนายแชด โรดไมเออร์ โฆษกสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐในกรุงพนมเปญ ของกัมพูชา แถลงเมื่อวันพฤหัสบดี (31 มี.ค.) เรียกร้องให้รัฐบาลกัมพูชาเปิดเผยว่ากองทัพจีนเข้ามาปฏิบัติการทางทหารในกัมพูชาอย่างไรบ้าง เพราะเกรงว่าอาจทำให้ประเด็นเกี่ยวกับความมั่นคงและอธิปไตยของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซับซ้อนกว่าที่เป็นอยู่ในขณะนี้ไปอีก

ความสัมพันธ์ระหว่างกัมพูชาและสหรัฐเริ่มตึงเครียดขึ้นเมื่อปี 2562 เมื่อมีกระแสข่าวว่ารัฐบาลจีนและกัมพูชาเซ็นสัญญากันอย่างลับๆ ในการให้กองทัพจีนใช้พื้นที่ส่วนหนึ่งของฐานทัพเรือเรียม

ต่อมาเมื่อเดือน พ.ย. 2564 รัฐบาลสหรัฐบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อบุคคลและบริษัทหลายราย โดยมีชื่อของเจ้าหน้าที่ด้านกลาโหมของกัมพูชา 2 คนรวมอยู่ด้วย หลังจากนั้นกระทรวงพาณิชย์สหรัฐก็ออกประกาศห้ามส่งยุทโธปกรณ์ให้กัมพูชา จากการที่กัมพูชามีความสัมพันธ์ทางทหารใกล้ชิดกับจีนมากขึ้น