ญาติๆ ตะลึง เจอเงินสดใต้เตียงผู้เฒ่า ช่วยกันนับตั้งแต่เช้าถึงตีหนึ่ง รู้จำนวนทั้งหมดยิ่งอึ้ง

ชายชราชาวอินโดนีเซีย เปิดเผยความลับเก็บเงินไว้ใต้ฟูกเป็นเวลาหลายปี ทั้งญาติ เพื่อน และเพื่อนบ้าน รวมกว่า 20 คนช่วยกันนับทั้งวัน สรุปยอดรวมมีอึ้งมากกว่า 100 ล้านรูเปีย

ตามรายงานของสื่ออินโดนีเซีย ชายวัย 74 ปีเก็บเงินส่วนตัวไว้ใต้ที่นอนเป็นเวลาหลายปีอย่างไรก็ดี ล่าสุดป่วยหนักจึงตัดสินใจเปิดเผยความลับนี้ และเมื่อครอบครัวเปิดฟูกดูตามคำบอกเล่าก็พบธนบัตรจำนวนมากจริงๆ มากมายจนต้องเรียกเพื่อนบ้านและญาติกว่า 20 คนมาช่วยกันนับเงิน

โดยพบว่าตั้งแต่ปี 2013 ชายชราเริ่มบันทึกรายได้ต่อเดือนของเขา จากนั้นนำธนบัตรมามัดเป็นม้วนเล็กๆ พร้อมรัดด้วยยาง แล้วซ่อนไว้ในที่ต่างๆ ของบ้าน ตั้งแต่กระป๋องสี กระป๋องพลาสติก กล่องคุกกี้ ถังเหล็ก ถุงพลาสติก และมากที่สุดคือใต้เตียง ถึงกระนั้นตลอดเวลา 10 ปีที่ผ่านมา เขาเก็บความลับนี้ไว้ไม่ให้สมาชิกในครอบครัวรู้ จนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ เขาป่วยหนักจนล้มหมอนนอนเสื่อ เดินแทบไม่ได้ ได้แต่นอนอยู่บนเตียง จึงตัดสินใจบอกความลับแก่หลานชาย และขอให้หลานชายรวบรวมและนับเงินให้เขา

“ผมประหลาดใจเมื่อรู้ว่าคุณปู่มีเงินออม ผมไม่รู้ว่าท่านเก็บเงินที่หามาได้ 10 ปีที่ผ่านมา แล้วผมก็พบม้วนเงินจำนวนมาก” หลานชายเล่า อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทำให้หลานชายประหลาดใจที่สุดคือ ปู่ของเขาไม่เคยล็อคประตูตลอดทั้งปี แต่ยังสามารถเก็บเงินจำนวนนี้ไว้ในบ้านได้อย่างปลอดภัย

ธนบัตรกองโตดูแปลกตาสำหรับพวกเขาทุกคน ญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง และเพื่อนบ้าน ต่างช่วยกันนับธนบัตรตั้งแต่เช้าจนถึงตีหนึ่ง ธนบัตรหลายใบถูกมัดด้วยหนังยาง บางใบก็มีร่องรอยความเสียหาย และบางใบก็เป็นธนบัตรรุ่นเก่าที่ยกเลิกการใช้งานไปแล้วด้วยซ้ำ โดยรวมแล้วพบว่ามีธนบัตร 10 ล้านรูเปียอินโดนีเซีย (ประมาณ 23,300 บาท) ที่ไม่สามารถใช้งานได้ ส่วนที่เหลือยังสามารถนำไปเข้าธนาคารได้อีกกว่า 100 ล้านรูเปียอินโดนีเซีย (ประมาณ 233,000 บาท)

ทั้งนี้ ภาพเหตุการณ์การรับเงินยังถูกนำไปเผยแพร่ลงโซเชียลฯ จนกลายเป็นประเด็นไวรัล โดยทางครอบครัวยังเปิดเผยด้วยว่า คุณปู่มีภูมิหลังที่ยากจนมาก เขาหาเลี้ยงชีพด้วยการเลี้ยงเป็ด นอกจากได้รับเบี้ยเลี้ยงจากรัฐบาลและความช่วยเหลืออื่นๆ จากเพื่อนบ้านแล้ว อย่างไรก็ตาม ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เขาแทบไม่ได้ใช้เงินเลย ใช้ชีวิตอย่างประหยัดสุดๆ คาดว่าเงินทั้งหมดนี้น่าจะเป็นเงินที่เก็บมาตลอดหลายปี ซึ่งครอบครัวจะนำเงินไปปรับปรุงบ้านและใช้เป็นค่ารักษาพยาบาลของชายชรา