โฆษกรัฐบาลกรีซเปิดเผยว่า นายสถานีรถไฟที่เข้าเวรใกล้บริเวณซึ่งเกิดเหตุรถไฟโดยสารประสานงากับรถไฟบรรทุกสินค้าในวันอังคาร ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 40 คน ยอมรับผิดต่อข้อกล่าวหาว่าทำการประมาทเลินเล่อแล้ว
รายงานข่าวระบุว่า นายสถานีรถไฟลาริซซา ซึ่งยังไม่มีการเปิดเผยตัวตนต่อสาธารณะ ปรากฏตัวต่อหน้าอัยการในวันพฤหัสบดี ขณะที่ พนักงานสอบสวนยังคงตรวจสอบว่า ทำไมรถไฟโดยสารและรถไฟบรรทุกสินค้าจึงวิ่งบนรางเดียวกันและมุ่งหน้าเข้าหากันได้
เจ้าหน้าที่ตำรวจรายหนึ่งกล่าวเมื่อวันพุธว่า นายสถานีที่รับผิดชอบนั้นถูกดำเนินคดีในข้อหาอาญาประเภทลหุโทษจากการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความประมาทจนทำให้มีการเสียชีวิตของผู้คนเป็นจำนวนมาก และทำให้เกิดอันตรายรุนแรงต่อร่างกายผู้คน ตามรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์
เหตุการณ์รถไฟประสานงานี้เกิดขึ้นเมื่อค่ำคืนวันอังคารใกล้ ๆ กับเมืองเทมพี ซึ่งห่างจากกรุงเอเธนส์ของกรีซไปทางตอนเหนือราว 380 กิโลเมตร โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บกว่า 80 คน และเสียชีวิตอย่างน้อย 43 คน
และในวันพฤหัสบดี สหภาพแรงงานรถไฟของกรีซได้ออกมาเรียกร้องให้สมาชิกหยุดงานเพื่อให้มีการปรับปรุงสภาพการทำงานให้ดีขึ้น และประท้วงที่รัฐบาลไม่ทำการใด ๆ เพื่อแก้ไขปัญหาด้านมาตรฐานความปลอดภัยของระบบขนส่งทางรางของประเทศ
หลังเดินทางตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ นายกรัฐมนตรีกรีซ คิเรียอาคอส มิทโซทาคิส ระบุในแถลงการณ์ผ่านโทรทัศน์ในวันพุธว่า อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นน่าจะเกิดจาก “ความผิดพลาดอันน่าเศร้าจากมือคน” พร้อมสัญญาว่า จะมีการสืบสวนอย่างเต็มรูปแบบด้วย
ข้อมูลจากทางการกรีซ ณ เช้าวันพุธ ระบุว่า ผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 66 คนยังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล โดยมี 6 คนที่อยู่ในห้องไอซียู ขณะที่ เจ้าหน้าที่กู้ภัยยังคงเดินหน้าค้นหาผู้ที่อาจรอดชีวิตใต้ซากรถไฟโดยสารที่หลุดออกจากรางไปอยู่ในทุ่งที่อยู่ใกล้ๆ
รัฐมนตรีสาธารณสุขกรีซ ธานอส พเลฟริส เปิดเผยว่า ผู้โดยสารจำนวนมากในรถไฟขบวนวิ่งขึ้นเหนือที่ประสานงากับรถไฟบรรทุกสินค้านั้นเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยและผู้โดยสารหนุ่มสาว โดยสื่อของกรีซรายงานว่า ผู้โดยสารหลายคนเพิ่งเดินทางกลับจากการฉลองคาร์นิวัลในกรุงเอเธนส์