รมว.สาธารณสุขอินเดียลาออกแล้ว เซ่นบริหารโควิดล้มเหลว เตียงไม่พอ-ออกซิเจนขาด

อินเดียเปลี่ยนรมว.สาธารณสุข หลังถูกวิจารณ์หนักคุมโควิดไม่ได้ ประชาชนเข้าไม่ถึงการรักษา เตียงไม่ออก ถังออกซิเจนขาดแคลน ผู้ป่วยตายเกลือน ระบบสาธารณสุขพัง

ฮาร์ช วาร์ธัน (Harsh Vardhan) รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการครอบครัวของอินเดียประกาศลาออกจากตำแหน่งเมื่อ 7 กรกฎาคม ที่ผ่านมาท่ามกลางการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ยังไม่บรรเทาลง การตัดสินใจครั้งนี้เกิดจากการที่รัฐบาลนิวเดลีถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าจัดการและควบคุมเชื้อไวรัสโควิด-19 ไม่ได้ ส่งผลโดยตรงต่อความเชื่อมั่นของประชาชน อีกทั้งระบบบริการสาธารณสุขของประชาชนที่ไม่เพียงพอ ยิ่งซ้ำเดิมให้สถานการณ์โควิดระบาดวิกฤตเลวร้ายไปอีก

สำหรับวาร์ธันเคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการครอบครัวเมื่อปี 2557 ภายใต้คณะรัฐบาลของ นเรนทรา โมดี (Narendra Modi) นายกรัฐมนตรี จนเมื่อสิ้นสุดวาระแรกของโมดี ต่อมาปี 2562 วาร์ธัน ได้ร่วมรัฐบาลอีกครั้ง หลังโมดีชนะการเลือกตั้งนายกฯ สมัยสอง ส่งผลให้เขาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข

ในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 คณะรัฐบาลภายใต้ นเรนทรา โมดี ถูกวิจารณ์อย่างหนักจากหลายฝ่ายว่า รัฐบาลล้มเหลวในการรับมือระบาดในระลอกสองที่ประเทศพบผู้ติดเชื้อพุ่งถึงหลักแสน ท่ามกลางสภาวะที่ระบบสาธารณสุขในหลายพื้นที่ไม่สามารถรับกับผู้ป่วยได้อีก ประเทศเผชิญปัญหาเตียงขาดแคลน ออกซิเจนไม่เพียงพอ ร่างผู้เสียชีวิตหลายศพรอการฌาปนกิจ ซ้ำร้ายผู้ป่วยบางรายเข้าไม่ถึงการรักษาเสียชีวิตคาบ้านพัก

สถิติจาก Hindustan Times สื่อท้องถิ่นรายงานว่า ตั้งแต่มีการระบาดระลอกที่สอง อินเดียมีผู้ติดเชื้อสะสมในรอบ 7 วันแล้วถึง 414,188 ราย และผู้เสียชีวิต 4,192 ราย ตัวเลขผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตนี้มีสาเหตุมาจากการขาดแคลนเตียงและออกซิเจนในโรงพยาบาล จนทำให้มีผู้ป่วยจำนวนมากเสียชีวิตในบ้าน ผู้เชี่ยวชาญหลายคนมองว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อที่แท้จริงจะมากกว่านั้น ท่ามกลางความเสี่ยงของการระบาดระลอกสามที่อาจกำลังจะมาถึงในไม่ช้า

วาร์ธันมักถูกวิจารณ์การบริหารจัดการโควิดจากพรรคฝ่ายค้าน แม้ว่าหลายครั้งโมดีจะชื่นชมในความตั้งใจอย่างมากของเขาในการควบคุมการระบาดก็ตาม โดย ปาลาเนียปัน ชิดบาราม (Palaniappan Chidambaram) ผู้นำพรรคฝ่ายค้าน ได้วิจารณ์การลาออกจากตำแหน่งของวาร์ธันในครั้งนี้ว่า การลาออกของรัฐมนตรีสาธารณสุขครั้งนี้เป็นการยอมรับว่าคณะรัฐบาลล้มเหลวในการจัดการโรคระบาด

ผู้เชี่ยวชาญวิจารณ์ยับ

ดร. จาคอบ จอห์น (Jacob John) อดีตหัวหน้าภาควิชาไวรัสวิทยา มหาวิทยาลัยการแพทย์คริสเตียน ได้กล่าวถึงปัญหาการสั่งซื้อวัคซีนของรัฐบาลว่า “รัฐบาลควรจริงจังกับการซื้อวัคซีน การฉีดวัคซีนต้องให้ความสำคัญกับประชาชนผู้ซึ่งอาจจะต้องตายหากติดเชื้อขึ้นมา”

ด้านดร.จา ชัยลาล (JA Jayalal) ได้รายงานถึงความบกพร่องของการสนับสนุนจากรัฐบาลว่า “รัฐมนตรีสาธารณสุขของประเทศนี้ เขาควรจัดการกับความกังวลต่อความปลอดภัยของบุคลากรทางการแพทย์”

วาร์ธัน เคยกล่าววาจาที่ไม่เหมาะสมขณะกำลังแถลงการณ์ครั้งหนึ่งในเดือนมีนาคม 2564 ที่ผ่านมาว่า “เราอยู่ในจุดสิ้นสุดของเกมการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในอินเดีย” ซึ่งเพียงหนึ่งเดือนหลังจากนั้น ผู้ติดเชื้ออยู่ในอัตราที่สูงอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากวาร์ธันลาออก นเรนทรา โมดี ได้แต่งตั้งให้ มันสุข ลักซ์มาน มานดาวิทยา (Mansukh Laxman mandaviya) รับตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขแทน

ทั้งนี้ การลาออกเกิดขึ้นไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่นายกโมดี จะมีการปรับคณะรัฐมนตรีชุดใหญ่ โดยมีรัฐมนตรีกระทรวงอื่นอย่างน้อย 12 คนที่ถูกเปลี่ยนตำแหน่ง อาทิ รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ, รัฐมนตรีกระทรวงสารสนเทศ, รัฐมนตรีกระทรวงแรงงาน, และรัฐมนตรีกระทรวงสิ่งแวดล้อม

สำหรับอินเดีย มีการฉีดวัคซีนไปแล้วราว 354 ล้านโดส หรือคิดเป็น 4.8% ของประชากรทั้งหมดกว่า 1,200 ล้านคน โดยมีผู้ได้รับการฉีดวัคซีนครบโดสแล้วราว 65.5 ล้านคน