ระเบิดฆ่าตัวตายนอกสนามบินกรุงคาบูล อเมริกันดับอย่างน้อย 12 ราย อัฟกัน 60 ราย

กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ หรือ เพนตากอน เปิดเผยว่า เกิดระเบิดสองครั้งด้านนอกสนามบินระหว่างประเทศในกรุงคาบูลในวันพฤหัสบดี และมีเจ้าหน้าที่อเมริกันเสียชีวิตหลายคน

พลเอกแฟรงค์ แมคเคนซี ผู้บัญชาการกองบัญชาการภูมิภาคเอเชียกลางและตะวันออกกลาง แถลงข่าวที่เพนตากอนในวันพฤหัสบดี ระบุว่ามีเจ้าหน้าที่ทหารอเมริกันเสียชีวิต 12 คน เป็นนาวิกโยธิน 11 คน และแพทย์ของกองทัพเรืออีกหนึ่งคน รวมทั้งมีทหารอเมริกันบาดเจ็บอีก 15 คน และมีการยิงต่อสู้หลังเกิดเหตุระเบิด

ทางเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และอัฟกานิสถาน รายงานว่า มีชาวอัฟกันเสียชีวิตอย่างน้อย 60 คน และบาดเจ็บอย่างน้อย 143 คน ตามรายงานของสำนักข่าวเอพี

ด้านโฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ จอห์น เคอร์บี ระบุว่า เหตุระเบิดครั้งแรกเกิดขึ้นบริเวณประตูแอบบีย์ ของสนามบินกรุงคาบูล “ซึ่งเป็นผลจากการโจมตีที่ซับซ้อนที่ทำให้มีเจ้าหน้าที่อเมริกันและประชาชนได้รับบาดเจ็บ” ส่วนระเบิดครั้งที่สองเกิดขึ้นบริเวณโรงแรมบารอน ไม่ไกลจากประตูที่เกิดระเบิดจุดแรก

แหล่งข่าวในกลุ่มตาลิบันยืนยันกับวีโอเอว่า มือระเบิดฆ่าตัวตายคือผู้ก่อเหตุโจมตีครั้งแรกท่ามกลางประชาชนจำนวนมากที่รวมตัวหน้าประตูทางเข้าสนามบิน รวมทั้งผู้หญิงและเด็กหลายคน

ยังไม่มีกลุ่มใดออกมาแสดงความรับผิดชอบ แต่สำนักข่าวเอพีรายงานอ้างคำพูดของเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ผู้หนึ่งที่เชื่อว่า สาขาย่อยของกลุ่มรัฐอิสลามในอัฟกานิสถานคือผู้ก่อเหตุครั้งนี้

ก่อนหน้านี้ รัฐบาลชาติตะวันตกต่างเตือนให้ระวังการโจมตีที่สนามบินดังกล่าวในวันพฤหัสบดี ขณะที่ชาวอัฟกันนับหมื่นคนยังคงรวมตัวบริเวณสนามบินกรุงคาบูลเพื่อหาทางหนีออกนอกประเทศหลังจากกลุ่มตาลิบันยึดครองกรุงคาบูลเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม

ทางทำเนียบขาวระบุว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้รับรายงานสรุปเกี่ยวกับเหตุระเบิดครั้งนี้ในวันพฤหัสบดี และได้ประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ เกี่ยวกับสถานการณ์ล่าสุดในกรุงคาบูล

หลังเหตุการณ์ระเบิด สถานทูตอเมริกันในกรุงคาบูลมีแถลงการณ์ว่า “พลเมืองสหรัฐฯ ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังสนามบินกรุงคาบูล ส่วนผู้ที่ยังชุมนุมอยู่ตามประตูต่างๆ รวมทั้งประตูแอบบีย์ ประตูตะวันออก และประตูเหนือ ให้ออกมาจากบริเวณนั้นทันที”

ผู้บาดเจ็บจำนวนมากถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลฉุกเฉินในกรุงคาบูล ขณะที่สื่อต่าง ๆ ของอัฟกานิสถานต่างเสนอภาพคนเจ็บถูกนำตัวขึ้นรถพยาบาลเพื่อไปยังโรงพยาบาลต่างๆ

เมื่อวันพุธ สถานทูตอเมริกันในกรุงคาบูลได้มีคำเตือนให้พลเมืองอเมริกันหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังสนามบินกรุงคาบูล และเตือนผู้ที่อยู่บริเวณทางเข้าสนามบินได้ออกจากพื้นที่นั้นทันที เนื่องจากมี “ภัยคุกคามด้านความปลอดภัย”

เวลานี้ สหรัฐฯ และชาติพันธมิตร กำลังเร่งนำพลเมืองของชาติตนและชาวอัฟกันที่เคยทำงานให้กับชาติตะวันตกในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา อพยพออกจากอัฟกานิสถานด้วยเครื่องบินทหารและเครื่องบินพาณิชย์ ให้ทันกำหนดเส้นตายการถอนกำลังทหารในวันที่ 31 สิงหาคมนี้

ทำเนียบขาวเปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดีว่า จนถึงขณะนี้ได้นำประชาชนออกจากกรุงคาบูลแล้ว 95,700 คนในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ถือเป็นหนึ่งในการอพยพผู้คนทางอากาศครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์