พรรคฝันจอร์เจีย ซึ่งเป็นพรรคแกนนำรัฐบาลจอร์เจีย ออกแถลงการณ์เมื่อวันพฤหัสบดี (9 มี.ค.) ว่าจะถอนร่างกฎหมายฉบับหนึ่งที่ถูกต่อต้านอย่างหนักตลอดหลายวันที่ผ่านมาออกจากการวาระการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร
ร่างกฎหมายดังกล่าวมีเนื้อหาบังคับให้องค์กรใดๆ ที่รับเงินบริจาคจากต่างประเทศเกิน 20% ของเงินบริจาคทั้งหมด ต้องขึ้นทะเบียนเป็นองค์กรต่างชาติ หากฝ่าฝืนจะเจอโทษปรับรุนแรง ซึ่งร่างกฎหมายนี้คล้ายกฎหมายของรัสเซีย ที่บังคับใช้เมื่อปี 2555 โดยที่รัสเซียนั้นมุ่งนำมาใช้ทำลายองค์กรนอกภาครัฐ (เอ็นจีโอ) จากต่างประเทศ และสื่อมวลชน
เหตุนี้ทำให้ผู้ประท้วงหลายพันคนออกมาต่อต้านร่างกฎหมายดังกล่าว เพราะเกรงว่ารัฐบาลจะใช้ปิดกั้นการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง และจะยิ่งทำให้โอกาสได้เข้าเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) ยากขึ้น
ผู้ประท้วงบางคนถือธงชาติจอร์เจีย ยูเครน และธงอียู มาร่วมประท้วงด้วย ทั้งยังมีการตะโกนว่า “ไม่เอากฎหมายรัสเซีย”
ผู้ชุมนุมคนหนึ่งถือป้ายที่มีข้อความว่า
ส่วนการประท้วงเมื่อคืนวันพุธ (8 มี.ค.) ตำรวจใช้ปืนฉีดน้ำแรงดันสูงฉีดใส่ผู้ชุมนุมที่รวมตัวกันหน้ารัฐสภาจอร์เจียในกรุงทบิลิซี และจับกุมผู้ชุมนุมกว่า 60 คน
แม้จอร์เจียเคยเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียต แต่ประชาชนจำนวนไม่น้อยรู้สึกต่อต้านรัสเซซีย จากการที่รัสเซียให้การสนับสนุนกลุ่มแบ่งแยกดินแดน ทั้งยังเคยส่งทหารมารุกรานจอร์เจียด้วยเมื่อปี 2551 ทำให้เมื่อรัสเซียรุกรานยูเครนระลอกล่าสุดตั้งแต่เดือน ก.พ. 2565 ประชาชนจำนวนไม่น้อยจึงสนับสนุนยูเครน และผลสำรวจหลายสำนักเมื่อไม่นานมานี้พบว่าชาวจอร์เจียต้องการเข้าร่วมอียูสูงสุดถึง 85%