รัสเซียเตรียมการมหึมาเพื่อเปิดเส้นทางเดินเรือในมหาสมุทรอาร์กติก 

มหาสมุทรอาร์กติก ตั้งอยู่ในซีกโลกเหนือ และส่วนใหญ่อยู่ในเขตขั้วโลกเหนืออาร์กติกมีรูปร่างคล้ายวงกลมครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 14,056,000 ตารางกิโลเมตร แนวชายฝั่งยาว 45,390 กิโลเมตร

ล้อมรอบด้วยทวีปยุโรป เอเชีย อเมริกาเหนือ และกรีนแลนด์ รวมทั้งเกาะต่างๆ และทะเลแบเร็นตส์ ทะเลโบฟอร์ต ทะเลชุกชี ทะเลคารา ทะเลลัปเตฟ ทะเลไซบีเรียตะวันออก ทะเลลิงคอล์น ทะเลแวนเดล ทะเลกรีนแลนด์ และทะเลนอร์เวย์ เชื่อมกับมหาสมุทรแปซิฟิกที่ช่องแคบเบริง และเชื่อมกับมหาสมุทรแอตแลนติกที่ทะเลกรีนแลนด์

มหาสมุทรอาร์กติกปกคลุมด้วยทะเลน้ำแข็งตลอดทั้งปีในฤดูหนาว มหาสมุทรอาร์กติกเป็นมหาสมุทรขนาดเล็กที่สุดและตื้นเขินที่สุดใน 5 มหาสมุทรของโลกอันได้แก่ มหาสมุทรแปซิฟิก มหาสมุทรแอตแลนติก มหาสมุทรอินเดีย มหาสมุทรแอนตาร์กติก และมหาสมุทรอาร์กติก

มหาสมุทรอาร์กติกมีลักษณะคล้ายกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน คือเป็นทะเลกลางธรณีเพราะเป็นส่วนเหนือสุดของมหาสมุทรโลกที่ล้อมรอบทั้งหมดด้วยแผ่นดินของทวีปยุโรป เอเชีย อเมริกาเหนือ และกรีนแลนด์ อุณหภูมิและความเค็มของมหาสมุทรอาร์กติกแตกต่างกันไปตามฤดูกาล

Ekaterina ANISIMOVA / AFPหมีขาวตัวหนึ่งถูกพบเห็นในอ่าวเอสเซน นอกชายฝั่งเกาะพรินซ์จอร์จแลนด์ ในหมู่เกาะฟรานซ์โซเซฟ ทางเหนือสุดของรัสเซีย ในมหาสมุทรอาร์กติก เมื่อวันที่ 22 ส.ค. 2564

เมื่อน้ำแข็งละลายและแข็งตัว ความเค็มของมหาสมุทรมีค่าเฉลี่ยต่ำสุดในมหาสมุทรหลักทั้ง 5 เนื่องจากการระเหยที่ต่ำ และมีน้ำจืดจากแม่น้ำลำธารจากแผ่นดินโดยรอบไหลลงมหาสมุทรอาร์กติกมีปริมาณมหาศาล และมีช่องทางการไหลออกไปยังมหาสมุทรโดยรอบที่มีความเค็มสูงกว่าจำกัดมากเพราะถูกล้อมรอบโดยแผ่นดินนั่นเอง 

เดือนกรกฎาคม 2563 ซึ่งเป็นกลางฤดูร้อนปรากฏว่ามีทะเลน้ำแข็งครอบคลุมพื้นที่เพียง 7,200,000 ตารางกิโลเมตร นับตั้งแต่ปี 2522 เป็นต้นมา ทะเลน้ำแข็งในมหาสมุทรอาร์กติกลดลงเฉลี่ย ราว 70,000 ตารางกิโลเมตรต่อปีในช่วง 40 ปีที่ผ่านมา และไม่ได้เพิ่มขนาดของทะเลน้ำแข็งอีกเลยจึงมีการคาดการณ์ว่า ฤดูร้อนในมหาสมุทรอาร์กติกที่อยู่เหนือสุดของโลกกำลังจะสูญเสียพื้นที่ทะเลน้ำแข็งทั้งหมดภายในปี 2578 

ปัจจุบันดินแดนอาร์กติกในครอบครองของรัสเซียมีประชากรรัสเซียอาศัยอยู่สองล้านคน และมีเมืองขนาดใหญ่ตั้งอยู่หลายเมือง รวมถึงเมือง มูร์มันสค์และเมืองนอริลสค์ สำหรับประชากรแคนาดากับสหรัฐอเมริกา ที่อาศัยอยู่ในภูมิภาคอาร์กติก รวมกันแล้วยังไม่ถึง 1 ใน 4 ของประชากรรัสเซียในภูมิภาคอาร์กติก

ดังนั้นรัสเซียคือมหาอำนาจเกือบทุกด้านในภูมิภาคอาร์กติก โดยมีกองเรือตัดน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และกำกับดูแลฐานทัพทหารหลายสิบแห่งรัสเซียส่งกองทหารใหม่ๆ ไปประจำการอยู่ทางเหนือมาโดยตลอด นอกจากนี้ ยังเพิ่มกิจกรรมของเรือดำน้ำและส่งเครื่องบินรบลาดตระเวนเหนือน่านฟ้าอาร์กติก

ขณะที่สหรัฐอเมริกา มีฐานทัพเพียงแห่งเดียวในเขตอาร์กติก และสนามบินหนึ่งแห่งในพื้นที่ทางเหนือของกรีนแลนด์ซึ่งเป็นการขอใช้พื้นที่จากรัฐบาลกรีนแลนด์

เนื่องจากพื้นที่หนึ่งในสามของประเทศรัสเซียอยู่เหนือเส้นรุ้งที่เรียกว่าวงกลมอาร์กติกซึ่งเป็นเขตหนาวที่อุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติอันมหึมา อาทิ น้ำมันดิบประมาณ 15,000 ล้านตันและก๊าซธรรมชาติประมาณ 100 ล้านล้านลูกบาศก์เมตร และแร่ธาตุอันมีค่าต่างๆ อย่างมหาศาลที่ฝังตัวอยู่ภายใต้แผ่นดินและผืนน้ำในเขตวงกลมอาร์กติกของรัสเซีย 

ดังนั้นรัฐบาลรัสเซียจึงทุ่มทุนมหาศาลเป็นเงินถึง 735 พันล้านรูเบิลเพื่อสร้างเรือยักษ์ตัดน้ำแข็งพลังงานนิวเคลียร์จำนวน 9 ลำโดยแต่ละลำสูงถึง 52 เมตร ยาว173 เมตรสามารถตัดน้ำแข็งที่หนาถึง 2.8 เมตรได้โดยสะดวกและกองเรือบรรทุกคอนเทนเนอร์จำนวนหนึ่งเพื่อเตรียมพร้อมในปี 2573 ที่คาดว่าจะสามารถเปิดเส้นทางเดินเรือเชื่อมมหาสมุทรแอตแลนติกกับมหาสมุทรแปซิฟิกผ่านมหาสมุทรอาร์กติกได้ตลอดปีแทนที่จะสามารถเดินเรือได้แค่ในช่วงฤดูร้อนเหมือนดังในปัจจุบัน

Ekaterina ANISIMOVA / AFPเรือ

ทางการรัสเซียหวังว่าเส้นทางเดินเรือน้องใหม่ผ่านมหาสมุทรอาร์กติกนี้ในอนาคตก็จะเป็นคู่แข่งสำคัญกับเส้นทางเดินเรือผ่านคลองสุเอซได้ในที่สุดถึงแม้ว่าปัจจุบันปริมาณสินค้าที่บรรทุกเรือที่แล่นผ่านมหาสมุทรอาร์กติกจะมีเพียงปีละ 33 ล้านตันซึ่งประมาณการว่าในปี 2578

เมื่อเส้นทางเดินเรือผ่านมหาสมุทรอาร์กติกจะใช้เดินทางได้ตลอดปีจะมีปริมาณสินค้าที่บรรทุกเพิ่มขึ้นเป็น 160 ล้านตันซึ่งก็ยังเทียบไม่ได้กับปริมาณสินค้าที่บรรทุกเรือที่แล่นผ่านคลองสุเอซที่มีถึงปีละ 1,000 ล้านตัน แต่ด้วยเส้นทางที่สั้นกว่าของเส้นทางเดินเรือผ่านมหาสมุทรอาร์กติกก็จะทำให้เส้นทางนี้จะถูกใช้มากกว่าเส้นทางเดินเรือผ่านคลองสุเอซแน่นอน