สหรัฐสั่งครอบครัวทูต-แนะพลเมือง รีบหนีจากยูเครน หวั่นรัสเซียใช้กำลังทหารบุก

กระทรวงต่างประเทศสหรัฐ ได้ประกาศคำสั่งให้สมาชิกครอบครัวของผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่ในสถานทูตสหรัฐประจำกรุงเคียฟ ประเทศยูเครน รีบหนีออกจากยูเครน เนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของกองทัพรัสเซีย

นอกจากนี้ กระทรวงฯ ยังแนะนำให้พลเมืองสหรัฐที่อาศัยอยู่ในยูเครนหาลู่ทางออกนอกประเทศตั้งแต่วันนี้ (24 ม.ค.)

แถลงการณ์จากกระทรวงฯ ระบุว่า “เราได้รับรายงานว่ารัสเซียกำลังวางแผนใช้กำลังทางทหารกับยูเครน” โดยสถานการณ์ความมั่นคงในไครเมียซึ่งรัสเซียครอบครองอยู่และในพื้นที่ทางตะวันออกของยูเครนซึ่งรัสเซียควบคุมอยู่นั้น เป็นเรื่องที่คาดการณ์ได้ยากและอาจย่ำแย่ลงโดยไม่มีการส่งสัญญาณให้เตรียมตัว

หนังสือพิมพ์เดอะนิวยอร์กไทมส์ รายงานว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ กำลังพิจารณาส่งทหารประมาณ 1,000-5,000 นายไปยุโรปตะวันออกและแถบบอลติก และอาจเพิ่มจำนวนอีกหลายเท่าหากจำเป็น รวมทั้งยังอาจส่งเรือรบและเครื่องบินไปยังชาติสมาชิกองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือหรือนาโต (NATO) ด้วย

ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่นักการทูตระดับสูงของสหรัฐกับรัสเซียไม่สามารถเจรจาหาทางออกเพื่อแก้ไขวิกฤตในยูเครน แม้ว่าทั้ง 2 ชาติตกลงที่จะหารือกันต่อไปก็ตาม โดยรัสเซียเรียกร้องให้สหรัฐยุติการขยายอิทธิพลของนาโตไปยังยุโรปตะวันออก และสหรัฐต้องให้คำมั่นว่ายูเครนจะไม่มีวันได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมเป็นพันธมิตรทางทหารกับชาติตะวันตก

ในขณะที่สหรัฐกังวลว่า รัสเซียอาจตัดสินใจบุกยูเครน เช่นเดียวกับที่ใช้กำลังทหารผนวกคาบสมุทรไครเมียในปี 2557 โดยขณะนี้รัสเซียส่งกำลังทหารเกือบ 100,000 นายประชิดชายแดนยูเครน และอาจเพิ่มกำลังพลเป็น 2 เท่าในเร็วๆ นี้