สาวญี่ปุ่นทุ่มเงินหลักล้าน ศัลกรรมให้เหมือน “คนธรรมดา” เผยภาพเทียบชัดหน้าเก่า-ใหม่

สาวญี่ปุ่นทุ่มเงิน 3.5 ล้าน ศัลกรรม 12 ปี ให้เหมือน “คนธรรมดา” เผยภาพเทียบชัดหน้าเก่า-หน้าใหม่

โทโดโรกิจัง สาวญี่ปุ่นวัย 30 ปี เป็นที่รู้จักในฐานะไอดอลด้านศัลยกรรมพลาสติกของญี่ปุ่น เมื่อเธอใช้เงินมากกว่า 13.5 ล้านเยน (ประมาณ 3.5 ล้านบาท) และได้รับการผ่าตัดหลายสิบครั้งนับตั้งแต่อายุ 18 ปี เพื่อให้ได้รูปลักษณ์ที่ต้องการ

โทโดโรกิเล่าถึงเส้นทางการทำศัลยกรรมพลาสติกของเธอจนถึงตอนนี้ว่า เธอไม่เสียใจกับ “มีด” ที่กรีดลงไปบนใบหน้า แม้จะมีอาการแทรกซ้อนก็ตาม เนื่องจากเมื่อตอนเรียนมัธยมต้น ในเวลานั้นเธอมีบุคลิกที่ขี้อาย ใบหน้าที่มีจุดบกพร่องมากมาย เช่น ตาตี่ จมูกแบน และฟันที่ยื่นออกมา ดังนั้นจึงมักถูกเพื่อนร่วมชั้นแกล้งและหัวเราะเยาะ และยังได้รับฉายาว่า “อัปลักษณ์” “ประหลาด” อีกทั้งเธอยังค่อยๆ ค้นพบว่าเพื่อนๆ ของเธอสวยกว่าเธอมาก หลังจากถ่ายรูปกับเพื่อนระหว่างที่ไปทัศนศึกษา และเห็นตัวเองอยู่ในนั้น เธอก็ตกใจและคิดกับตัวเองว่า “ฉันน่าเกลียดมากเมื่อเทียบกับคนอื่นๆ”

ตั้งแต่นั้นมา เธอก็เรียนรู้เกี่ยวกับการทำศัลยกรรมพลาสติก และทำลง “มีด” เป็นครั้งแรกเมื่ออายุ 18 ปี หลังจากโน้มน้าวให้พ่อแม่เซ็นเอกสารยินยอมได้สำเร็จ และตั้งแต่อายุ 18 ปีจนถึงตอนนี้ เธอทำศัลยกรรมพลาสติกมาแล้วหลายสิบครั้ง ใช้เงินกว่า 13.5 ล้านเยน (ประมาณ 3.5 ล้านบาท) โดยเธอกล่าวว่า ในขณะที่คนส่วนใหญ่หันมาทำศัลยกรรมเพื่อทำให้ตัวเองมีเสน่ห์ เธอทำเพื่อให้ตัวเอง “ดูเหมือนคนปกติ” และสุดท้ายก็เพื่อให้รู้สึก “ชอบตัวเอง”

ตอนนี้ โทโดโรกิในวัย 30 ปี กลายเป็นสาวที่สวยมากตามค่านิยมที่คนในสังคมบางกลุ่มกำหนดกันเอาเอง ด้วยดวงตากลมโต ผิวขาวกระจ่างใส และดั้งจมูกโด่ง นอกจากนี้เธอยังเป็นเจ้าของช่อง YouTube ที่มีผู้ติดตาม 406,000 คน และเป็นหนึ่งในผู้สร้างเนื้อหาเกี่ยวกับสุนทรียศาสตร์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในญี่ปุ่น  แม้ว่าการทำศัลยกรรมพลาสติกในประเทศของเธอจะยังถูกต่อต้าน แต่เธอเชื่อว่าวันหนึ่ง “วัฒนธรรมการทำศัลยกรรม” จะแพร่หลายในญี่ปุ่นเช่นเดียวกับในเกาหลี  

ในช่อง YouTube ของเธอ ยังพูดเสมอถึงการเปลี่ยนแปลงของเธอหลังผ่านการทำศัลยกรรมมามากมาย รวมทั้งความเจ็บปวดและระยะพักฟื้นที่เธอต้องอดทนเพื่อให้ได้มาซึ่ง “ผลไม้ที่หอมหวาน” อย่างที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้  เธอยังมักจะเปิดเผยเกี่ยวกับด้านมืดของการทำศัลยกรรมพลาสติก และพยายามช่วยให้ผู้คนตัดสินใจได้อย่างถูกต้องเกี่ยวกับรูปร่างหน้าตาของพวกเขา แทนที่จะส่งเสริมการทำศัลยกรรมเพียงอย่างเดียว

เธอยังกล่าวในการให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Oricon ว่า “สำหรับฉัน การทำศัลยกรรมเป็น ‘การรักษา’ สำหรับเรื่องการยอมรับตนเอง ฉันมั่นใจว่าฉันเข้าใกล้ปกติมากขึ้น.. ไม่ใช่ว่าทุกอย่างจะเป็นไปได้ดีกับการทำศัลยกรรม ฉันเผชิญความล้มเหลวมาบ้าง และฉันคิดว่ามันสำคัญที่จะพูดคุยอย่างเปิดเผยเกี่ยวกับการทำศัลยกรรม ”