หญิงจีนใช้ 20 ปี ทำตามความฝันของลูกชายผู้ล่วงลับ ปลูกต้นไม้บนทะเลทราย

ปักกิ่ง, 13 มี.ค. (ซินหัว) — “แม่ครับ ลองไปปลูกต้นไม้ที่มองโกเลียในดูดีไหม ถ้าเราคิดจะทำแล้วเราก็ต้องทำให้เต็มที่ ทำให้ถึงที่สุดนะแม่” นี่คือคำพูดที่ลูกชายผู้ล่วงลับของอี้เจี่ยฟ่างเคยบอกกับเธอเมื่อปี 2000 ก่อนที่เขาจะจบชีวิตลงเพราะอุบัติเหตุทางรถยนต์เพียงครึ่งเดือนถัดมา

สิ่งนี้กลายเป็นแรงผลักดันที่ทำให้อี้เจี่ยฟ่างซึ่งปัจจุบันอายุ 74 ปี และสามี ตัดสินใจว่าจะเดินหน้าปลูกต้นไม้เพื่อทำความฝัน “สร้างผืนดินสีเขียว” ของลูกชายสุดที่รักเพียงคนเดียวคนนี้ให้กลายเป็นจริง

ตั้งแต่ปี 2003 จนถึงวันนี้ สองสามีภรรยาเดินหน้าพลิกผืนทรายสู่พื้นที่สีเขียวอย่างไม่ลดละ ผ่านการทำสัญญาความร่วมมือกับรัฐบาลท้องถิ่น โดยตั้งเป้าเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้ครบ 40,000 หมู่ (ราว 16,600 ไร่) ภายในปีนี้

“ถ้าต้นไม้หนึ่งต้นมีราคา 10 หยวน เราก็ต้องใช้เงินราวๆ 10 ล้านหยวน” อี้กล่าวพร้อมเล่าว่าตนกับสามีนำเงินเก็บของตัวเองและเงินที่ได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ 3 แห่ง รวมถึงเงินชดเชยและเงินประกันอุบัติเหตุที่ได้จาการเสียชีวิตของบุตรชายมาใช้ในภารกิจปลูกต้นไม้ในทะเลทราย และมอบให้ชาวบ้านท้องถิ่นที่มีส่วนร่วมในโครงการเหล่านี้ในอำเภอคู่หลุน อำเภอเติ้งโข่ว ไปจนถึงอำเภอตัวหลุนของเขตปกครองตนเองมองโกเลียในของจีน

งานปลูกต้นไม้ในทะเลทรายไม่ใช่เรื่องง่าย เคยมีคนบอกให้อี้จ้างคนมาทำแทนก็พอ เธออายุมากแล้วไม่ควรลำบากเดินทางมาทำด้วยตัวเอง เพราะกว่าจะมาถึงต้องนั่งเครื่องบิน ต่อรสบัส และต่อรถม้าอีกทีซึ่งกินเวลายาวนาน แต่อี้ตอบว่าเธอรู้สึกสบายใจมากกว่าหากได้ลงมือทำเองและตนก็อยากมีส่วนร่วมกับอาสาสมัครทุกคน หญิงสูงวัยคนนี้รักและห่วงใยต้นไม้ทุกต้นราวกับว่าพวกมันเป็นตัวแทนของลูกชายที่จากไป

จนกระทั่งปี 2018 ทีมงานของอี้สร้างแนวพื้นที่สีเขียวในทะเลทรายของมองโกเลียในไปทั้งสิ้น 30,000 หมู่ (ราว 12,500 ไร่) ด้วยการปลูกต้นไม้รวม 8 ล้านต้น น่ายินดีที่ต้นไม้เหล่านี้มีอัตราการรอดชีวิตสูงกว่าร้อยละ 85

อี้เล่าว่าในปี 2020 พวกตนปลูกต้นไม้ในเมืองตุนหวง มณฑลกานซู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีนได้ราว 2,000 หมู่ (ราว 830 ไร่) ก่อนจะขยับเป็น 3,000 หมู่ (ราว 1,250 ไร่) ในปี 2021 “และปีนี้เป้าหมายของเราคือ ปลูกเพิ่มอีก 5,000 หมู่ (ราว 2080 ไร่) คาดว่าพอถึงปลายปีนี้ต้นไม้ที่เราปลูกจะมีจำนวนรวมทั้งสิ้น 10 ล้านต้น” หญิงชรากล่าวอย่างแน่วแน่

แม้การปลูกต้นไม้จะฝากรอยแผลนับไม่ถ้วน ทั้งยังเป็นสาเหตุของการเจ็บหนักหลายครั้งของอี้ แต่เธอเผยว่า “ความปรารถนาของลูกเป็นความฝันของฉันมาตลอดเช่นกัน และมันเป็นสิ่งที่ทำให้ฉันมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ แต่ที่สำคัญมากกว่านั้นคือลูกหลานและผู้คนที่ยังมีชีวิตอยู่ เขาจะอยู่ต่อไปอย่างไร ขอแค่ฉันยังไม่ล้มลง ใครก็อย่าหวังว่าจะล้มความตั้งใจนี้ได้ ฉันจะปลูกต้นไม้ต่อไปตราบจนร่างกายจะสู้ไม่ไหว”

ต้นไม้ต้นแล้วต้นเล่าที่ถูกปลูกลงผืนทราย ก่อเกิดเป็นผืนดินสีเขียวกว้างใหญ่ และเบื้องหลังของต้นไม้นับล้านเหล่านี้ นอกจากหยาดเหงื่อและแรงกายของผู้คนที่เชื่อว่าสักวัน “ลุงโง่จะย้ายภูเขาได้” คือความเสียสละและพลังแห่งรักของผู้เป็นแม่