อิตาลี เลิกบังคับสวมแมสก์กลางแจ้ง หลังติดเชื้อลดฮวบ-ฉีดวัคซีนโดสแรกแล้ว 54%

อิตาลียกเลิกบังคับสวมหน้ากากอนามัยในพื้นที่กลางแจ้งทั้ง 20 แคว้นทั่วประเทศเมื่อวันจันทร์ (28 มิ.ย.) หลังจากพบว่าโรคโควิด-19 ระบาดรุนแรงลงอย่างมากตลอดช่วงที่ผ่านมา จนมีความเสี่ยงต่ำ

การเคลื่อนไหวนี้ถือเป็นความคืบหน้าในการควบคุมโรคโควิด-19 ที่สำคัญของอิตาลี จากเดิมที่เคยเป็นพื้นที่ที่การแพร่ระบาดรุนแรงมากที่สุดแห่งหนึ่ง หลังจากพบผู้ติดเชื้อครั้งแรกเมื่อเดือน ก.พ. 2563

ข้อมูลจากรัฐบาลอิตาลี เมื่อวันอาทิตย์ (27 มิ.ย.) ระบุว่า มีผู้ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 อย่างน้อย 1 โดสแล้ว 54.77% ของประชากรทั้งประเทศ หรือราว 27 ล้านคน ขณะเดียวกันผู้ได้รับวัคซีนครบแล้ว 17,572,505 คน หรือราว 29% ของประชากรทั้งประเทศ

ก่อนหน้านี้อิตาลีปิดไม่ให้คนจากต่างประเทศเดินทางเข้ามา เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แต่เมื่อไม่นานมานี้ เริ่มเปิดให้นักเดินทางจากสหภาพยุโรป สหราชอาณาจักร สหรัฐ แคนาดา และญี่ปุ่น กลับเข้ามาแล้ว เฉพาะผู้ที่ได้รับวัคซีนหรือผู้ที่ีผลการตรวจโรคออกมาว่าไม่พบเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019

อย่างไรก็ตาม นายโรแบร์โต สเปรันซา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขอิตาลี ก็เตือนให้ชาวอิตาลียังคงระมัดระวังตัว และระบุว่า การยกเลิกมาตรการสวมหน้ากากในที่กลางแจ้งนั้น ไม่ได้หมายความว่าอิตาลีชนะโรคโควิด-19 แล้ว

ที่ผ่านมา อิตาลีมีผู้เสียชีวิตจากภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากโรคโควิด-19 กว่า 127,000 คน และมีผู้ติดเชื้อสะสมมากกว่า 4 ล้านคน