อินฟลูฯ สาว บอกร้องไห้ไม่หยุด หลังขับรถหรูผ่านย่านคนจน เจอทัวร์ลงยับ จวกแรง!

อินฟลูเอนเซอร์สาว ถูกทัวร์ลงยับ หลังบอกว่าใจสลาย และร้องไห้ไม่หยุด เมื่อขับรถหรูผ่านย่านคนจน

มิเคลา เทสตา อินฟลูเอนเซอร์สาวชาวออสเตรเลีย วัย 22 ปี ได้เดินทางไปทั่วโลก หลังจากเลิกรากับ เอทิส พอล หนุ่มคนดังบน TikTok ซึ่งคบหาดูใจกันมา 3 ปี โดยเธอได้แชร์บันทึกการเดินทางในยุโรปและอเมริกาลงบนโลกออนไลน์

ล่าสุด อินฟลูฯ สาว เพิ่งถ่ายทำวิดีโอวันเดย์ทริปขณะอยู่ที่ลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา พร้อมกับเพื่อนสาว โดยทั้งคู่ได้เช่ารถเทสลาที่มีมูลค่าประมาณ 3.6 ล้านบาทมาขับ พร้อมกับจ่ายเงินกว่า 3,000 บาท ไปกับสลัด

จากนั้นทั้งคู่ได้ขับรถไปเยี่ยมชมโรงแรมเซซิลอันโด่งดัง ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นโรงแรมผีสิง ตั้งอยู่ในย่านสกิดโรว์ ซึ่งเป็นหนึ่งในย่านชุมชนยากจนที่สุดของลอสแอนเจลิส และเต็มไปด้วยคนเร่ร่อน

เทสตา กล่าวว่า เธอหมกมุ่นกลับโรงแรมเซซิลเป็นอย่างมาก หลังจากได้ชมสารคดีเกี่ยวกับโรงแรมดังกล่าวผ่าน Netflix แต่เมื่อขับรถผ่านย่านชุมชนยากจน ก็ทำให้เธอถึงกับร้องไห้ออกมา และบอกว่าใจสลายเป็นอย่างมาก

“การขับรถผ่านถนนเหล่านี้ ทำให้หัวใจสลาย ฉันไม่สามารถหยุดร้องไห้ได้เลย ฉันผ่านไปไม่ได้ด้วยซ้ำ ฉันจะไม่ลงจากรถ” เทสตา กล่าว พร้อมกับแพลนกล้องไปยังคนไร้บ้านตามถนน ขณะที่ตัวเธอนั่งอยู่บนรถและใบหน้าที่ไร้ซึ่งน้ำตา

จากนั้น เทสตา ก็พูดขึ้นมาว่า “เงินของประเทศไหนดีกว่ากัน ระหว่างเงินออสเตรเลียที่เป็นพลาสติก สามารถล้างทำความสะอาดได้ หรือเงินอเมริกาที่มีคราบเลือดติดอยู่”

นอกจากนี้ อินฟลูฯ สาว ยังให้เงินเด็กขายน้ำมะนาว 20 ดอลลาร์ (ประมาณ 700 บาท) สำหรับการซื้อน้ำมะนาว 2 แก้ว

อย่างไรก็ตาม หลังจากคลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป อินฟลูฯ สาวก็ถูกวิจารณ์อย่างหนักจากชาวเน็ต หลายคนมองว่าคำพูดของเธอดูเสแสร้ง แม้ว่าเธอจะบอกว่าสงสารคนเหล่านี้ แต่การกระทำของเธอไม่ได้แสดงออกว่าสงสารสักนิด

“คนเร่ร่อนทำให้ฉันร้องไห้…..เงินไหนสวยกว่ากัน งงนะ?” ชาวเน็ตรายหนึ่งแสดงความเห็นกับคลิปดังกล่าว ขณะที่อีกรายบอกว่า “คุณเพิ่งขับรถผ่านย่านสกิดโรว์ ด้วยรถเทสลาหรือเปล่า”

แต่ก็มีชาวเน็ตบางส่วนออกมาปกป้องเธอ พร้อมกล่าวขอบคุณเธอที่โชว์ให้เห็นด้านอื่นๆ ในมหานครลอสแอนเจลิสแห่งนี้ “ยินดีต้อนรับสู่แอลเอ ทุกอย่างมีทั้งด้านดีและไม่ดี” และอีกราย “ในฐานะชาวแคลิฟอร์เนีย ขอขอบคุณที่แสดงให้เห็นด้านที่แท้จริงของแอลเอนะ”