ลอนดอน, 23 ส.ค. (ซินหัว) — เมื่อวันอาทิตย์ (22 ส.ค.) กระทรวงกลาโหมของสหราชอาณาจักร เปิดเผยว่ามีพลเมืองชาวอัฟกานิสถานเสียชีวิตจากเหตุความวุ่นวายใกล้กับสนามบินคาบูล 7 ราย หลังจากประชาชนแห่แหนกันมาจนแน่นขนัดเต็มพื้นที่ด้วยความหวังว่าจะได้ขึ้นเครื่องบินเพื่ออพยพออกนอกประเทศ หลังตาลีบันเข้าควบคุมอัฟกานิสถาน
อย่างไรก็ดี กระทรวงฯ ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดถึงช่วงเวลาการเสียชีวิต รวมถึงเรื่องที่ว่ายอดผู้เสียชีวิตกลุ่มล่าสุดนี้ยังไม่รวมกรณีหญิง 4 รายซึ่งเสียชีวิตในเหตุเหยียบกันตายบริเวณหน้าสนามบิน เมื่อวันเสาร์ (21 ส.ค.) หรือไม่
“สถานการณ์ภาคพื้นดินยังคงมีความท้าทายอย่างมาก แต่เราจะดำเนินการทุกวิธีเพื่อควบคุมสถานการณ์อย่างปลอดภัยที่สุดเท่าที่ทำได้” แถลงการณ์จากกระทรวงฯ ระบุ
เบน วอลเลซ รัฐมนตรีกระทรวงฯ กล่าวกับหนังสือพิมพ์เดอะ เดลี เมล์ (The Daily Mail) ว่าไม่มีประเทศใดสามารถดำเนินการอพยพประชาชนทุกคนก่อนเส้นตายที่สหรัฐฯ กำหนดไว้ในวันที่ 31 ส.ค. ว่าจะทำการถอนตัวจากอัฟกานิสถานอย่างเต็มรูปแบบ
“ชาวสหรัฐฯ อาจได้รับอนุญาตให้อยู่ต่อนานกว่า ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นสหราชอาณาจักรจะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่” วอลเลซกล่าวขณะกระตุ้นให้สหรัฐฯ ขยายกำหนดเวลาการอพยพ
เมื่อวันเสาร์ (21 ส.ค.) สหรัฐฯ เผยแพร่ประกาศแจ้งเตือนด้านความมั่นคง โดยขอความร่วมมือให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเดินทางมายังสนามบินคาบูล ท่ามกลางข้อกังวลว่าอาจเกิดเหตุโจมตีโดยกองกำลังไอเอสที่อยู่ในอัฟกานิสถาน
คณะผู้นำกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนํา 7 ประเทศ (G7) จะประชุมทางออนไลน์ในช่วงต้นสัปดาห์หน้าเพื่อหารือถึงสถานการณ์ในอัฟกานิสถาน ขณะที่ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ และกลุ่มประเทศยุโรป ทวีความรุนแรงขึ้นเนื่องจากสหรัฐฯ ถอนกองกำลังออกจากอัฟกานิสถานอย่างเร่งด่วน