เมียเคารพหลุมศพผัว ขนลุกมีเสียงตอบกลับมา เปิดโลงพิสูจน์แทบกรี้ด ยังมีชีวิตอยู่ได้ไง?!

ขนลุกทั้งหมู่บ้าน เมียวิ่งมาตามไปช่วยขุดหลุมศพผัว บอกได้ยินเสียงเรียกจากใต้ดิน นึกว่าเฮี้ยน ที่ไหนได้… ยังไม่ตาย!!!

ชายคนหนึ่งซึ่งอาศัยอยู่ในมณฑลกว่างซี ประเทศจีน เสียชีวิตหลังจากป่วยหนักมาระยะหนึ่ง เมื่อภรรยาทราบข่าวเศร้าก็รีบลางานและกลับบ้านทันที เพื่อร่วมพิธีไว้อาลัยให้สามี โดยเธอพาลูกชายไปที่หลุมฝังศพของสามี ร้องไห้สะอึกสะอื้นเพราะยังรับไม่ได้รับการสูญเสีย

ตามธรรมเนียมท้องถิ่น ภรรยาต้องโค้งคำนับ 3 ครั้งต่อหน้าหลุมฝังศพของสามี อย่างไรก็ดี เมื่อเธอกำลังจะลุกขึ้นหลังเสร็จสิ้นพิธีกรรมนี้ กลับได้ยินเสียงปริศนาดังมาจากพื้นดิน ลูกชายเองก็ได้ยินเสียงดังกล่าวเหมือนกัน และเอ่ยทักว่า “แม่ได้ยินไหม ดูเหมือนว่าเสียงมาจากหลุมฝังศพของพ่อ”

ในตอนนั้นภรรยาตัวแข็งทือยืนฟังอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ทำใจกล้าแนบใบหูลงกับพื้นดินเพื่อฟังให้ชัดๆ อีกทั้งยังเอ่ยเรียกชื่อสามีออกมาโดยไม่รู้ตัว และก็ต้องตกใจอย่างสุดขีดเมื่อได้ยินเสียงตอบที่ชัดเจนทั้งประโยคว่า “ปล่อยฉันไป” เธอจึงรีบวิ่งกลับบ้านทันทีเพื่อขอให้ชาวบ้านช่วยขุดหลุมฝังศพสามี เ

พื่อนบ้านต่างตกตะลึงกับสถานการณ์เร่งด่วน พวกเขาไม่มีแม้แต่เวลาจะไถ่ถามอะไรมาก เพราะต้องรีบไปวิ่งไปขุดหลุมฝังศพดังกล่าว และหลังจากที่โลงศพถูกยกขึ้นมาจากใต้พื้นดิน ภรรยาก็เปิดฝาโลงออกอย่างไม่ลังเล เธอทั้งตื่นเต้นและตะลึงเมื่อพบว่าสามีของยังมีชีวิตอยู่จริงๆ รีบโผเข้ากอดสามีที่เพิ่งกลับมาจากความตาย

เป็นที่ทราบกันดีว่า สามีภรรยาคู่นี้แต่งงานกันโดยได้รับความช่วยเหลือจากแม่สื่อ พื้นฐานครอบครัวของทั้งคู่ค่อนข้างยากจนมาก อีกทั้งในเวลาต่อมาสามียังเผชิญกับการป่วยหนัก แม้จะใช้เงินจำนวนมากไปกับการรักษาแต่สุขภาพของเขาก็ยังไม่ดีขึ้น ดังนั้น ภรรยาจึงต้องออกจากบ้านไปทำงาน โดยขอให้พ่อแม่ของสามีอยู่บ้านเพื่อดูแลสามีแทน

ในวันเกิดเหตุ แม่สามีนำข้าวมาให้ลูกชายตามปกติ แต่บังเอิญพบว่าเขานอนนิ่งอยู่บนเตียง มือเท้าเย็นเฉียบ มีการเรียกหมอในหมู่บ้านมาตรวจ พบว่าเขาไม่หายใจแล้ว อีกทั้งชีพจรก็ไม่เต้นเช่นเดียวกัน จึงสรุปว่าเขาเสียชีวิตแล้ว แม่สามีรีบโทรหาลูกสะใภ้เพื่อทำพิธีศพต่อไป

ทั้งนี้ แพทย์ในโรงพยาบาลได้ทำการตรวจสุขภาพเพื่อหาสาเหตุของการ “ฟื้นคืนชีพ” ของชายคนนี้ ปรากฎว่าเขาเป็นเบาหวานขั้นรุนแรงมาก น้ำตาลในเลือดของเขาสูงถึง 38.5 ในขณะที่คนทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 5.9 เท่านั้น และเนื่องจากเขาไม่ได้รับการรักษาโรคเบาหวานเป็นเวลานาน ร่างกายของเขาจึงตกอยู่ในสภาวะขาดน้ำมากเกินไป ชีพจรของเขาอ่อนแอมาก ทำให้หมอในหมู่บ้านเข้าใจว่าเขาตายแล้ว ส่วนการที่เขาตื่นขึ้นมาในโลงศพนั้น เป็นเพราะขาดออกซิเจนกะทันหัน

ทั้งนี้ ยังถือเป็นโชคดีที่โรงพยาบาลทราบภูมิหลังที่ยากจนของเขา จึงตัดสินใจจ่ายค่ารักษาทั้งหมด