แม่พูดไม่ออก ลูกสาวขอให้ป้านอนเตียงเดียวกับพ่อ ฟังเหตุผลซื่อๆ ยิ่งหน้าซีด

หลานสาวพูดซื่อๆ อ้อนขอให้ป้านอนกับพ่อ พร้อมเหตุผลที่พ่อแม่ฟังแล้วพูดไม่ออก ในขณะที่ป้าหัวเราะลั่นอย่างห้ามไม่อยู่

เด็กตัวเล็กๆ มีจิตวิญญาณที่บริสุทธิ์ และสามารถพูดในสิ่งที่พวกเขาคิดได้โดยปราศจากความคิดที่ซับซ้อน เช่นเดียวกับเรื่องราวของเด็กหญิงวัยประถมในเหอเป่ย ประเทศจีน ที่สร้างความปั่นป่วนในโซเชียลเน็ตเวิร์ค เพราะความน่ารักเกินพิกัดจากคำพูดสุดจริงใจของเธอ

เหตุการณ์เกิดขึ้นในวันหนึ่ง ครอบครัวของเด็กหญิงได้ต้อนรับพี่สาวของแม่ซึ่งมาเยี่ยมที่บ้าน คุณป้าอยู่เล่นกับหนูน้อยกระทั่งช่วงค่ำ ถึงเวลาที่ทุกคนในบ้านควรต้องเข้านอน ป้าเองจึงเตรียมตัวจะกลับบ้านเช่นกัน ทันใดนั้นเด็กหญิงรีบวิ่งไปจับมือป้าพร้อมบอกว่า “ป้าคะ พ่อไม่ชอบหนูมากๆ งั้นทำไมป้าไม่อยู่ที่นี่แล้วนอนกับพ่อล่ะ?”

เมื่อได้ยินคำพูดที่ไร้เดียงสาของเด็กหญิงทุกคนก็ประหลาดใจมาก ไม่เข้าใจว่าทำไมเธอพูดแบบนั้น แม้ว่าคุณป้าจะงุนงงแต่ก็อดหัวเราะกับคำถามของหลานสาวไม่ได้ จึงแกล้งถามกลับไปว่า “แม่หนูรู้เรื่องนี้หรือเปล่า?” และการสนทนาของป้าหลานหลังจากนั้นก็ทำเอาคนเป็นพ่อและแม่พูดไม่ออก เพราะหลังจากฟังคำอธิบายของลูกสาวแล้วพวกเขาต่างก็เข้าใจเหตุผล

ปรากฎว่าในความรู้สึกของเด็กหญิง ป้าและพ่อเป็นคนสองคนที่เธอชอบมากที่สุด เธอชอบที่จะอยู่กับป้าและพ่อ ในขณะที่แม่ของเธอเป็นคนที่มักดุ ทำให้เธอรู้สึกห่างเหินและไม่มีความสุข อีกทั้งที่ผ่านมาเธอยังเห็นพ่อแม่ทะเลาะกันบ่อยๆ ทุกครั้งที่โกรธกันแต่ยังต้องนอนเตียงเดียวกัน ทั้งคู่ดูไม่มีความสุขเลย เธอคิดว่าแม่ของเธอใจร้าย และไม่ชอบพ่อของเธอ ดังนั้นเธอจึงต้องการให้ป้าที่เธอชอบ มานอนกับพ่อที่เธอชอบแทน

ในความเป็นจริงแล้ว เป็นไปได้ว่าหลายครอบครัวจะต้องเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ พ่อแม่ควรคิดทบทวนการกระทำว่าส่งผลเสียต่อเด็กหรือไม่ เพราะบทบาทในครอบครัวส่วนมากแม่มักจะเข้มงวด และพ่อมักจะเป็นคนที่ทำให้ลูกๆ สนุกสนาน นั่นอาจเป็นเหตุผลที่เด็กบางคนเกิดความคิดขึ้นมาว่า ไม่ต้องการให้คนใจร้ายอยู่ใกล้กับคนที่พวกเขาชอบ หรือก็คือไม่ต้องการให้แม่อยู่ใกล้พอของพวกเขา

นอกจากนี้ ผู้ปกครองบางคนยังมีความเชื่อผิดๆ โดยเหมารวมว่าเด็กๆ จะไม่รับรู้ถึง “สงครามเย็น” หากไม่ส่งเสียงดังโวยวายหรือทะเลาะเบาะแว้งกัน แต่ความจริงแล้วเด็กๆ มีความอ่อนไหวมากกว่าที่ผู้ใหญ่จินตนาการไว้มาก สิ่งเหล่านั้นก็สามารถทำให้ลูกรู้สึกกดดัน ถูกบังคับ และอึดอัดได้เช่นเดียวกัน นอกจากนั้นยังก่อให้เกิดความคิดเชิงลบมากมายในจิตใจของเด็กๆ เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของครอบครัว และส่งผลเสียต่อพัฒนาการของลูกด้วย