ผอ.องค์การอนามัยโลก ออกโรงแนะนำให้ทั่วโลกงดหรือเลื่อนการจัดงานรื่นเริงเฉลิมฉลองช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ เพราะอาจจะทำให้เสียใจในภายหลัง เผยข้อมูลบ่งชี้โอมิครอนระบาดเร็วกว่าเดลตามาก
วันนี้ (21 ธ.ค.) ตามเวลาในประเทศไทย นพ.ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำภาครัฐและประชาชนทั่วโลก ให้งดหรือเลื่อนการจัดงานเลี้ยงฉลองบางส่วนในช่วงเทศกาลฉลองวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ เพื่อปกป้องระบบสาธารณสุขของประเทศให้เข้มแข็ง พร้อมจะรับมือกับไวรัสโควิดสายพันธุ์โอมิครอนซึ่งแพร่ระบาดไปทั่วโลก พร้อมเตือนว่ามีข้อมูลบ่งชี้ว่า ไวรัสโอมิครอนระบาดเร็วกว่าไวรัสเดลตาค่อนข้างมาก
ทั้งนี้ นพ.ทีโดรส กล่าวว่า เขาทราบดีว่าทุกคนเบื่อหน่ายเต็มทนกับการระบาดของโรคโควิด-19 ทุกคนอยากจะจัดงานเลี้ยงฉลองกับครอบครัวและเพื่อนๆ ต้องการให้สถานการณ์กลับมาเป็นปกติโดยเร็ว อีกทั้งการยกเลิกการจัดงานเลี้ยงฉลองปีใหม่จะเป็นเรื่องที่ทุกคนตัดสินใจลำบาก แต่ WHO ขอแนะนำให้ทุกคนคิดถึงผลดีในระยะยาว การยกเลิกการจัดงานเลี้ยงสังสรรค์แค่ครั้งเดียวดีกว่าต้องเสียใจในภายหลังเพราะหมดโอกาสจัดงานเลี้ยงไปตลอดชีวิต
อย่างไรก็ตาม นพ.ทีโดรส แสดงความเห็นในเรื่องดังกล่าวนี้ ท่ามกลางหลายประเทศ เช่น ฝรั่งเศสและเยอรมนี ยกระดับมาตรการควบคุมโรคให้เข้มข้นยิ่งขึ้น พร้อมทั้งจำกัดการเดินทางไปยังพื้นที่เสี่ยง ขณะที่ เนเธอร์แลนด์ประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์ รณรงค์ให้ประชาชนอยู่บ้าน เพื่อลดการแพร่ระบาดของไวรัสโอมืครอน
นอกจากนี้ ผอ.องค์การอนามัยโลก (WHO) ยังเรียกร้องให้ทั่วโลกร่วมมือกันยุติการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ภายในปีหน้า โดยระบุว่า ปี 2565 ต้องเป็นปีที่ยุติการแพร่ระบาด และสำหรับประเด็นการเข้าถึงวัคซีนที่ไม่เท่าเทียมกันนั้น หากเราต้องการยุติการแพร่ระบาดในปีหน้า เราต้องยุติความไม่เท่าเทียมด้านวัคซีนด้วยเช่นกัน
WHO เปิดเผยว่า นับตั้งแต่พบไวรัสโควิดสายพันธุ์โอมิครอนเป็นครั้งแรกในแอฟริกาใต้ ไวรัสดังกล่าวได้แพร่ระบาดไปในหลายสิบประเทศ พร้อมเสริมว่า ไวรัสโอมิครอนไม่ได้มีความรุนแรงมากกว่าสายพันธุ์เดลตา แต่อาจแพร่ระบาดได้รวดเร็วกว่า และดื้อต่อวัคซีนมากกว่า
ส่วนที่สหรัฐฯ ทำเนียบขาว แถลงว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ไม่มีแผนการปิดประเทศในระยะนี้ ขณะที่ นพ.แอนโธนี เฟาซี หัวหน้าที่ปรึกษาด้านการแพทย์ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ เตือนก่อนหน้านี้ว่า การเดินทางในช่วงเทศกาลวันคริสต์มาสและวันส่งท้ายปี จะเพิ่มความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของไวรัสโอมิครอน แม้แต่คนที่รับวัคซีนมาครบโดสแล้วก็เสี่ยงติดเชื้อไวรัสโอมิครอนด้วยเช่นกัน
ด้านศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) และกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ แนะนำชาวอเมริกันให้เลี่ยงการเดินทางไปยังพื้นที่เสี่ยงสูงสุดอีก 8 ประเทศ/ดินแดน ได้แก่ สเปน ฟินแลนด์ ชาด เลบานอน โมนาโก โบแนเรอ (อาณาเขตของเนเธอร์แลนด์) ซานมารีโน และยิบรอลตาร์ (ดินแดนโพ้นทะเลของอังกฤษ อยู่บริเวณทางตอนใต้สุดของคาบสมุทรไอบีเรีย)